ความรู้ทั่วไป
การทดสอบกลิ่น ให้แต้มน้ำหอมที่ข้อมือ(ที่อื่นก็ได้ที่สะดวก)ทิ้งให้แห้งย้ำต้องทิ้งให้แห้งนะครับ เพราะน้ำหอมของเราเป็นน้ำหอมฝรั่งเศส และที่สำคัญผสมเข้มข้น ถ้าไม่ทิ้งให้แห้งจะไม่ได้กลิ่นที่แท้จริง (ถ้าเป็นน้ำหอมที่ทาแล้วดมได้ทันทีโดยไม่ต้องรอให้แห้ง แถมเมื่อทาแล้วกลิ่นหอมฟุ้งกระจายดี นั้นความจริงไม่ดีแล้วครับ เพราะน้ำหอมแบบนั้นผสมแอลกอฮอล์มาก และทำให้ติดไม่ทน)
น้ำหอมเราผสมอะไรบ้าง น้ำหอมเราใช้หัวน้ำหอมฝรั่งเศสเกรด A โดยคัดกลิ่นที่เทียบเคียงแบรนด์มากที่สุด ส่วนผสมที่ใช้เป็นส่วนผสม AA โดยประกอบด้วย DEB : แอททานอล เกรด A ช่วยในการกระจายกลิ่น . POP : สารให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว ทั้งยังเป็นสารช่วยในเรื่องการป้องกันการแพ้อีกด้วย , Musk : สารที่ทำให้ความหอมติดทน , White Musk : สารที่เพิ่มความนุ่มนวลแก่กลิ่นน้ำหอม สารประกอบทั้งหมดถูกผสมในสัดส่วนที่ดีที่สุด ละลงตัวที่สุด (โดยเราผสม POP , Musk , White Musk ในปริมาณสูงสุด)
การล้างขวดน้ำหอมแบบสเปรย์ ง่าย ๆ ครับ เราก็นำแอลกอฮอล์เทใส่ขวด แล้วก็ปิดฝาให้สนิท เขย่า ๆ กดหัวสเปรย์ให้แอลกอฮอร์ออกมา แล้ว เทแอลกอฮอล์คืนขวดล้าง(ขวดล้างคือขวดที่เราใส่แอลกอฮอล์สำหรับล้างขวดเท่านั้น ใช้ล้างแล้วเทคืนได้ ใช้ไปจนกว่าสีแอลกอฮอล์เปลี่ยนเป็นสีเหลือง หรือกลิ่นน้ำหอมออก ก็ให้เททิ้งครับ) เท่านี้ก็เสร็จ ส่วนขวดลูกกลิ้งให้กลิ้งหัวลูกกลิ้งเพื่อล้างด้วยครับ
กาแฟดับกลิ่น ควรมีเมล็ดกาแฟสดที่ร้านใส่โหลเล็ก ๆ ไว้เพื่อให้ลูกค้าดมเพื่อล้างกลิ่นน้ำหอมที่จมูกครับ ใช้ในกรณีที่ลูกค้าเลือกดม 4-6 กลิ่นแล้วให้ดมที เพื่อดับกลิ่นน้ำหอมที่ดมไปแล้ว แล้วจึงดมกลิ่นอื่นต่อ เพื่อให้ได้กลิ่นน้ำหอมที่แท้จริง
น้ำหอมห้ามตากแดดนะครับ
เพราะจะทำให้เสียคุณภาพทั้งสีและกลิ่น
ควรเพิ่มกลิ่นน้ำหอมอย่างไร จริง ๆ สำหรับลูกค้าที่เพิ่งเริ่มต้นนะครับ ช่วงแรกเราอาจรับน้ำหอมไป 10-20 กลิ่นแล้ว ก็ควรมีการเพิ่มกลิ่นเพื่อเป็นตัวเลือกให้ลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเลือกจาก 1. คำถามของลูกค้าที่มาสอบถาม
2. กลิ่นมาใหม่ (จำเป็นมาก)
3. ให้ทางร้านเลือกกลิ่นเพิ่มให้ โดยลูกค้าต้อง mail บอกกลิ่นที่มีอยู่แล้ว แล้วทางร้านจะเลือกกลิ่นที่ขายดี และกลิ่นที่มาใหม่ให้
การที่เรามีจำนวนกลิ่นมากขึ้น ก็จะทำให้เราได้ลูกค้าเพิ่มขึ้นด้วยครับ(โดยในร้านควรมีกลิ่นน้ำหอมอย่างต่ำ 60-70 กลิ่น) ลูกค้าที่เพิ่งขายอาจจะฟังดูเหมือนมาก แต่ไม่มากเลยครับ ค่อย ๆ เพิ่มครับ ไม่ต้องรีบ (ทางร้านมีน้ำหอมให้เลือกเกือบ 300 กลิ่น และมีกลิ่นใหม่ให้ Update ตลอดครับ)
การตั้งราคาเบื่องต้น
1. น้ำหอมต้นทุนต่ำสุด 0.75 บาท นำไปขายซีซี ละ 2-3 บาท แล้วแต่การแข่งขันในตลาด บวกค่าขวดตามความเหมาะสม
2. น้ำหอมต้นทุน 0.50 บาท ลูกค้าส่วนใหญ่นำไปขายส่งร้านทุกอย่าง 20 บาท
กฎหมายเบื้องต้น
สิ่งที่ผิดกฎหมายน้ำหอม
1. ห้าม Copy โลโก้ของแท้
สำหรับลูกค้าที่รับหัวเชื้อน้ำหอมไปผสมเอง
1. จดทะเบียนร้าน จดเฉพาะร้านที่มีที่ตั้งแน่นอนครับ
2. จดสรรพสามิต โดยเสียภาษี สรรพสามิต 8% ของราคาแนะนำขาย และภาษีมหาดไทย 10%
3. จดเลขที่รับแจ้ง จดที่สาธารณสุข เพื่อความสะอาดของสินค้า กฎหมายใหม่ ใช่ 1เลข/1กลิ่น ค่าจดโดยประมาณเลขละ 2,000 บาทใช้ได้ 3 ปี
สำหรับลูกค้าที่รับน้ำหอมพร้อมใช้
1. จดทะเบียนร้าน จดเฉพาะร้านที่มีที่ตั้งแน่นอนครับ
2. สรรพสามิต สามารถใช้เลขที่ร้านก่อนได้ครับ แต่ถ้าจะให้ถูกต้องจริง ๆ ต้องไปจดสรรพสามิตเพิ่มเติมตามการแบ่งขายครับ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจเจ้าหน้าที่ในเขตลูกค้าด้วยครับ แต่ส่วนใหญ่ที่เจอถ้าต้นทางจ่ายแล้ว ปลายทางเจ้าหน้าที่ก็จะอนุโลมให้ครับ ซึ่งเราจะให้เลขตามจำนวนที่ลูกค้ารับน้ำหอมพร้อมใช้ไปจริงครับ แนะนำให้ถ่ายใบเสร็จเป็นหลักฐานเก็บไว้ในโทรศัพท์เลยครับ เพราะจะได้ไม่หาย หรือชำรุด เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ จะมีการเช็คจำนวนที่รับมาจริง กับจำนวนที่จำหน่ายว่าตรงกันหรือไม่
3. จดเลขที่รับแจ้ง ถ้ามีการเปลี่ยนบรรจุภณฑ์ ต้องมีการจดแจ้งครับ กฎหมายปัจจุบัน การจดคือ 1กลิ่น/1เลข ไม่สามารถใช้เลขเดียวทั้งร้านได้แล้ว (เมื่อก่อน 1 ร้าน 1 เลข ครับ)ตอนนี้อยู่ในช่วงกฎหมายออกบังคับใช้ใหม่ ปัจจุบันทางร้านกำลังดำเนินการสร้างห้อง Lab เพื่อรองรับกฎหมายใหม่ครับ